PMS? รู้ทันอาการก่อนมีประจำเดือน

S__30679043

PMS (Premenstrual syndrome) คือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง ซึ่งหญิงไทยในวัยเจริญพันธ์ พบว่าเข้าเกณฑ์การวินิจฉัย ของภาวะนี้ได้มากถึงร้อยลละ 20-40

สาเหตุของ PMS ยังไมาทราบเป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงคือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และ เอสโตรเจน (Estrogen) ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง เซโรโทนิน (Serotonin) ช่วงหลังไข่ตก

อาการของ PMS อาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยเกิดขึ้นเป็นประจำ ก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการที่พบบ่อย เช่น ปวดท้อง ปวดเมื่อยหลัง ปวดศรีษะ ท้องอืด ถ่ายเหลว มีสิว หงุดหงิด โกรธง่าย อารมณ์ตึงเครียด และวิตกกังวล เป็นต้น ซึ่งจำนวนของผู้หญิงทั่วโลกคิดเป็น 75-95% จะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่สัมพันธ์กับช่วงมีประจำเดือน โดยประกอบด้วยอาการทางด้านล่างกาย และ ทางอารมณ์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ต้องหยุดงาน หรือก่อให้เกิดปัญหาทางด้านความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้

รู้ได้อย่างไรว่ามีอาการ PMS ไหม?

สามารถสังเกตได้จากอาการทางร่างกายที่เปลี่ยนไปต่อไปนี้ ปวดศรีษะ ปวดท้อง ถ่ายเหลว คัดตึงเตานม สิวขึ้นมากกว่าปกติ หรือ ตัวบวม อยากหารมากขึ้น ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแต่ทางด้านจิตใจและอารมณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เช่น โศกเศร้าง่าย นอนไม่หลับ หรือ หงุดหงิดง่าย และวิตกกังวล

เมื่อสาวๆเข้าสู่ช่วง PMS แล้วจะหาวิธีการรับมือยังไง?

  1. ออกกำลังกาย
  2. ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
  3. นอนหลีบให้เพียงพอ เฉลี่ยวันละ 7-8 ชั่วโมง
  4. รับประทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มเช่น ชา กาแฟ ของทอด อาหารรสจัด ของหวาน และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

 

 

 

 

PHOTO GALLERY

ข่าวสารและบทความ

ดูแลกระดูกอย่างไรให้แข็งแรง

กระดูกเป็นแกนของร่างกาย มีความสำคัญต่อการพยุงอวัยวะต่างๆ รวมถึงท่าทางการยืน การเดิน และการทรงตัว โครงสร้างกระดูกที่แข็งแรงเกิดจากการทำงานของเซลล์กระดูกที่สมดุล คือมีกระบวนการสลายกระดูกเก่าที่อ่อนแอ และสร้างกระดูกใหม่ที่แข็งแรง และรับแรงกระแทกได้ดี แต่เมื่ออายุขึ้นเลข 3 กระบวนการดังกล่าวเริ่มเสียสมดุล การสร้างกระดูกใหม่ลดลง ทำให้กระดูกบาง  และมีความสามารถในการรับน้ำหนักตัวลดลง เสี่ยงต่อการแตกหักของกระดูกในระยะยาว ภาวะดังกล่าวเรียกว่า “โรคกระดูกพรุน”

ดูแลกระดูกอย่างไรให้แข็งแรง

1.เสริมแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุหลักของโครงสร้างกระดูก เราทุกคนจำเป็นต้องได้รับแร่ธาตุแคลเซียมวันละ 800-1,200 มก. ต่อวัน ผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูกควรเน้นการบริโภคอาหารประเภทผักใบเขียว นม โยเกิร์ต ถั่ว และงาหรือเลือกรับประทานจากผลิตภัณฑ์แคลเซียมเสริมอาหาร ที่ให้แคลเซียมอิสระสูง 600 มก. ต่อเม็ด

2.การออกกำลังกาย เป้นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์กระดูกให้ทำงานได้ดี ซึ่งจะให้ผลดีแตกต่างกันไปในแต่ละวัย

เตรียมตัวให้พร้อมเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

จะเตรียมความพร้อมอย่างไร? เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

เมื่อมีอายุมากขึ้นร่างกายย่อมเสื่อมสภาพลงไปตามวัย การดูแลสุขภาพร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ การดูแลสุขภาพ ได้แก่
• รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
• ตรวจร่างกายประจำปีสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจร่างกายอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
• ลดหรืองดการดื่มสุรา การสูบบุหรี่

นอกจากการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปแล้ว การกินอาหารเสริมสำหรับผู้สูงวัยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากผู้สูงอายุบางรายอาจรับประทานอาหารได้น้อยลงจนทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน การกินอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ (ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม)

เรื่องอารมณ์และจิตใจ
การฝึกจิตใจให้สงบ เบิกบาน มีสติอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างเข้มแข็ง เรียนรู้การบริหารความเครียด การให้ การปล่อยวาง และการรักผู้อื่นพร้อม ๆ กับการรักตัวเอง จะทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและห่างไกลจากโรคต่าง ๆ โรคทางด้านจิตใจที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เช่น ภาวะซึมเศร้า ซึ่งต้องคอยติดตามป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเหล่านี้

งานประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566

บริษัท ชินต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566 โดยในปีนี้จัดที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2566 และมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากในปีนี้